ซิลิโคนเสริมคาง มี 2 ประเภท
1. ซิลิโคนเกาหลี
เป็นซิลิโคนสำเร็จรูป มีลักษณะโค้งมนตามรูปหน้า มีความนิ่มรับกับใบหน้า ซิลิโคนมีหลากหลายขนาดตามลักษณะคางของแต่ละคน
2. ซิลิโคนญี่ปุ่น
เป็นซิลิโคนสำเร็จรูป มีลักษณะโค้งมนตามรูปหน้า มีเนื้อซิลิโคนและความนิ่มที่แตกต่างจากซิลิโคนเกาหลีเพียงเล็กน้อย ซิลิโคนมีหลากหลายขนาดตามลักษณะคางของแต่ละคน
ขั้นตอนการผ่าตัด
1. วิสัญญีจะวางยานอนหลับและฉีดยาชาให้กับคนไข้ วิธีนี้จะช่วยไม่ให้เจ็บ
2. กรณีแผลภายนอก แพทย์จะเปิดแผลบริเวณใต้คาง แล้วใส่ซิลิโคนเข้าไปตามตำแหน่งที่ต้องการ กรณีแผลภายในปาก จะเปิดแผลบริเวณซอกเหงือกกับริมฝีปากล่าง จากนั้นแยกเยื่อหุ้มกระดูกคางตรงขอบล่างขึ้นมา แล้ววางแท่งซิลิโคนเข้าไปให้พอดีกับตำแหน่งที่ต้องการ
3. เย็บปิดแผลด้วยไหมละลาย ใช้เวลาประมาณ 45 นาที – 1 ชั่วโมง
การดูแลหลังศัลยกรรมคาง
1. หลังทำคุณหมอจะแปะพลาสเตอร์ที่บริเวณคาง 5 วันแรกใช้สำลีชุบน้ำเช็ดหน้ารอบๆ วันที่ 5 (นับจากวันที่ทำ) สามารถแกะออกได้และล้างหน้าได้ตามปกติ
2. ไหมเป็นไหมละลายแผลอยู่ด้านในช่องปาก (ไหมจะละลายประมาณ 3-4 สัปดาห์)
3. การนอน : นอนหน้าตรง หมอนสูงประมาณ 7-14 วันหลังได้รับการผ่าตัด ห้ามนอนคว่ำหรือนอนตะแคง
4. หลังทำเสร็จประคบเย็นด้วย COLD PACK 48 ชั่วโมง จะช่วยลดอาการบวมได้ดี ให้ประคบบริเวณข้างแก้ม 2 ฝั่ง (งดประคบทับบริเวณคาง) หลังจาก 48 ชั่วโมง ให้ประคบอุ่นต่อจนอาการบวมลดลง
5. งดอาหารแสลง เผ็ดจัด ร้อนจัด ของหมัก ดอง เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และบุหรี่ 1 เดือน
6. แปรงฟันได้ ควรแปรงเบาๆอย่าให้โดนแผล แต่จำเป็นมากต้องบ้วนปากทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร
7. จะเห็นรูปทรงชัดเจน เมื่อครบ 1 เดือน
ได้ตามปกติ
**กรณีคนไข้ทำไปยังไม่ครบ 1 เดือน และรู้สึกว่าเอียง ให้แนะนำคนไข้ว่ารูปทรงที่แท้จริงของคางจะชัดเจนเมื่อครบประมาณ 1 เดือน แนะนำให้รอให้ครบ 1 เดือน และเข้ามาตรวจ**
